วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Lesson 5




วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
Inclusive Education Experiences Management for Early Childhood
อาจารย์ผู้สอน ตฤณ  แจ่มถิน
เรียนครั้งที่ 5   เวลา  8.30 น. - 12.30 น.
กลุ่ม  102   ห้องเรียน  224




 Knowledge (ความรู้)
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ


6. เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Children with Learning Disabilities) 

-เรียกย่อ ๆ ว่า L.D. (Learning Disability)
-เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
-ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการ หรือความบกพร่องทางร่างกาย

สาเหตุของ LD
-ความผิดปกติของการทำงานของสมองที่ไม่สามารถถอดรหัสตัวอักษรออกมาได้ (เชื่อมโยงภาพตัวอักษรเข้ากับเสียงไม่ได้)
-กรรมพันธุ์

1. ด้านการอ่าน (Reading Disorder)
-หนังสือช้า ต้องสะกดทีละคำ
-อ่านออกเสียงไม่ชัด ออกเสียงผิด หรืออาจข้ามคำที่อ่านไม่ได้ไปเลย
 -ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อ่าน หรือจับใจความสำคัญไม่ได้ 

-จาน  

-ง่วง
-เลย
-โบราณ
-หนังสือ
-อรัญ

ลักษณะของเด็ก LDด้านการอ่าน
-อ่านช้า อ่านคำต่อคำ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้
-อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน
--เดาคำเวลาอ่าน
-อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ อ่านผิดประโยคหรือผิดตำแหน่ง
-อ่านโดยไม่เน้นคำ หรือเน้นข้อความบางตอน
-ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้
-ไม่รู้ความหมายของเรื่องที่อ่าน
-เล่าเรื่องที่อ่านไม่ได้ จับใจความสำคัญไม่ได้

2. ด้านการเขียน (Writing Disorder)

-เขียนตัวหนังสือผิด สับสนเรื่องการม้วนหัวอักษร เช่น จาก ม เป็น น หรือจาก ภ เป็น ถ เป็นต้น
-เขียนตามการออกเสียง เช่น ประเภท เขียนเป็น ประเพด
-เขียนสลับ เช่น สถิติ เขียนเป็น สถิติ

ลักษณะของเด็ก LD ด้านการเขียน
-ลากเส้นวนๆ ไม่รู้ว่าจะม้วนหัวเข้าในหรือออกนอก ขีดวนๆ ซ้ำๆ
-เรียงลำดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น สติถิ
-เขียนพยัญชนะหรือตัวเลขสลับกัน
     เช่น ม-น, ภ-ถ, ด-ค, พ-ผ, b-d, p-q, 6-9
-เขียนพยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ แต่บอกให้เขียนเป็นตัวๆได้
-เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับด้าน คล้ายมองจากกระจกเงา
-เขียนคำตามตัวสะกด เช่น เกษตร เป็น กะเสด
-จับดินสอหรือปากกาแน่นมาก
-สะกดคำผิด โดยเฉพาะคำพ้องเสียง ตัวสะกดแม่เดียวกัน ตัวการันต์
-เขียนหนังสือช้าเพราะกลัวสะกดผิด
-เขียนไม่ตรงบรรทัด ขนาดตัวอักษรไม่เท่ากัน ไม่เว้นขอบ ไม่เว้นช่องไฟ
-ลบบ่อยๆ เขียนทับคำเดิมหลายครั้ง

3. ด้านการคิดคำนวณ (Mathematic Disorder)
-ตัวเลขผิดลำดับ
-ไม่เข้าใจเรื่องการทดเลขหรือการยืมเลขเวลาทำการบวกหรือลบ
-ไม่เข้าหลักเลขหน่วย สิบ ร้อย
-แก้โจทย์ปัญหาเลขไม่ได้

ลักษณะของเด็ก LD ด้านการคำนวณ
-ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขเช่นหลักหน่วยสิบร้อยพันหมื่นเป็นเท่าใด
-นับเลขไปข้างหน้าหรือถอยหลังไม่ได้
-คำนวณบวกลบคูณหารโดยการนับนิ้ว
-จำสูตรคูณไม่ได้
-เขียนเลขกลับกันเช่น13เป็น31
-ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น
-ตีโจทย์เลขไม่ออก
-คำนวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนที่จะทำจากขวาไปซ้าย
-ไม่เข้าใจเรื่องเวลา

4. หลายๆ ด้านร่วมกัน
อาการที่มักเกิดร่วมกับ LD
-แยกแยะขนาดสีและรูปร่างไม่ออก
-มีปัญหาความเข้าใจเกี่ยวกับเวลา
-เขียน/อ่านตัวอักษรสลับซ้าย-ขวา
-งุ่มง่ามการประสานงานของกล้ามเนื้อไม่ดี
-การประสานงานของสายตา-กล้ามเนื้อไม่ดี
-สมาธิไม่ดี (เด็ก LD ร้อยละ 15-20 มีสมาธิสั้น ADHD ร่วมด้วย)
-เขียนตามแบบไม่ค่อยได้
-ทำงานช้า
-การวางแผนงานและจัดระบบไม่ดี
-ฟังคำสั่งสับสน
-คิดแบบนามธรรมหรือคิดแก้ปัญหาไม่ค่อยดี
-ความคิดสับสนไม่เป็นขั้นตอน
-ความจำระยะสั้น/ยาวไม่ดี
-ถนัดซ้ายหรือถนัดทั้งซ้ายและขวา
-ทำงานสับสนไม่เป็นขั้นตอน





7. ออทิสติก (Autistic) หรือ ออทิซึ่ม (Autism) 


-เด็กที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
-ไม่สามารถเข้าใจคำพูด ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
-ไม่สามารถที่จะสื่อสารกับคนรอบข้างและสังคม
-เด็กออทิสติกแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
-ติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
-ทักษะภาษา
-ทักษะทางสังคม
-ทักษะการเคลื่อนไหว
-ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาดและพื้นที่

"ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว" 

ลักษณะของเด็กออทิสติก
-อยู่ในโลกของตนเอง
-ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ปลอบใจ
-ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
 -ไม่ยอมพูด
-เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ

ดูหน้าแม่
หันไปตามเสียง
เรียนรู้คำพูดเพิ่มเติม
ร้องเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าใกล้
จำหน้าแม่ได้
เปลี่ยนของเล่น
เคลื่อนไหวอย่างมีจุดมุ่งหมาย
สำรวจและเล่นตุ๊กตา
ชอบความสุขและกลัวความเจ็บ

เกณฑ์การวินิจฉัยออทิสติก องค์การอนามัยโลกและสมาคมจิตแพทย์อเมริกา

ความผิดปกติของปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างน้อย 2 ข้อ
-ไม่สามารถใช้ภาษาท่าทางสื่อสารทางสังคมกับบุคคลอื่น
-ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลให้เหมาะสมตามวัย
-ขาดความสามารถในการแสวงหาการมีกิจกรรม ความสนใจ และความสนุก สนานร่วมกับผู้อื่น
-ขาดทักษะการสื่อสารทางสังคมและทางอารมณ์กับบุคคลอื่น

ความผิดปกติด้านการสื่อสารอย่างน้อย 1 ข้อ
-มีความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาในด้านภาษาพูด
-ในรายที่สามารถพูดได้แล้วแต่ไม่สามารถที่จะเริ่มต้นบทสนทนาหรือโต้ตอบบทสนทนากับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
-พูดซ้ำๆ หรือมีรูปแบบจำกัดในการใช้ภาษา เพื่อสื่อสารหรือส่งเสียงไม่เป็นภาษาอย่างไม่เหมาะสม
-ไม่สามารถเล่นสมมุติหรือเล่นลอกตามจินตนาการได้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ

มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ซ้ำๆ และจำกัด อย่างน้อย 1 ข้อ
-มีความสนใจที่ซ้ำๆ อย่างผิดปกติ
-มีกิจวัตรประจำวันหรือกฎเกณฑ์ที่ต้องทำโดยไม่สามารถยืดหยุ่นได้ ถึงแม้ว่ากิจวัตรหรือกฎเกณฑ์นั้นจะไม่มีประโยชน์
-มีการเคลื่อนไหวร่างกายซ้ำๆ
-สนใจเพียงบางส่วนของวัตถุ

พฤติกรมการทำซ้ำ
-นั่งเคาะโต๊ะ หรือโบกมือนานเป็นชั่วโมง
-นั่งโยกหน้าโยกหลังเป็นเวลานาน
-วิ่งเข้าห้องนี้ไปห้องโน้น
-ไม่ยอมให้เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

พบความผิดปกติอย่างน้อย 1 ด้าน (ก่อนอายุ 3 ขวบ)
-ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
-การใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมาย
-การเล่นสมมติหรือการเล่นตามจินตนาการ

Autistic Savant
 -กลุ่มที่คิดด้วยภาพ (visual thinker)
 -  จะใช้การการคิดแบบอุปนัย (bottom up thinking)
 -กลุ่มที่คิดโดยไม่ใช้ภาพ (music, math and memory thinker)
 -  จะใช้การคิดแบบนิรนัย (top down thinking)




ความรู้ที่ได้รับ


  •     ได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเด็กพิเศษ
  •      ความหมายของเด็กพิเศษในทางการแพทย์เรียนทางการศึกษา
การนำไปใช้
  •      นำเนื้อหาที่ได้รู้ไปพัฒนาเด็กพิเศษที่จะเจอในอนาคตให้เกิดประโยชน์และเกิดการพัฒนามากที่สุด


การประเมิน 
  • ตัวเอง : มาเรียนทันเวลา ตั้งใจรับฟังและสร้างข้อตกลงร่วมกัน
  • เพื่อน : แต่งกายเรียบร้อย มาเรียนทันเวลา รวมกันสร้างข้อตกลงร่วมกัน ตั้งใจเรียน
  • อาจารย์ : ใส่ใจนักศึกษาทุกคน แต่งกายเรียบร้อย พูดจาไพเราะ น้ำเสียงน่าฟัง









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น